Monday, December 4, 2017

ไปเที่ยวกับเดลี่: ฮอกไกโด วันที่ 8-9 โอตารุ ซาชิมิ, กิโมโน และของหวาน


เรามาถึงที่หมายสุดท้ายของทริปนี้กันแล้วนะคะ ก็คือโอตารุ

หากอยากอ่านวันที่ผ่านๆมาคลิกที่นี่นะคะ:

ไปเที่ยวกับเดลี่, อาหารเช้าตอนสายๆ กับโดราเอมอน และโบกี้รถไฟส่วนตัวของพวกเรา
ไปเที่ยวกับเดลี่: ฮอกไกโด วันที่ 2 กิน และไม่หยุดกิน ที่โอบิฮิโระ
ไปเที่ยวกับเดลี่: ฮอกไกโด วันที่ 4 วิวสวยๆ ในสายฝน
ไปเที่ยวกับเดลี่: ฮอกไกโด วันที่ 5 ไปเที่ยวสวนสัตว์และเก็บผลไม้กัน
ไปเที่ยวกับเดลี่: ฮอกไกโด วันที่ 6-7 กินขนม ดื่มกาแฟ ที่ซัปโปโร







เรามาถึงโรงแรม  Unga no Yado Otaru Furukawa (運河の宿 小樽ふる川) ตอนประมาณ 5.30 และตอนนี้ข้างนอกก็มืดแล้วค่ะ 




โรงแรมนี้ ตั้งอยู่ในทำเลดีมากๆ นะคะ อยู่ตรงข้ามกับคลองโอตารุเลย บรรยากาศของโรงแรม เป็นแบบเรโทร ดูเต็มไปด้วยเรื่องราว และก็เหมาะกับการพักผ่อนมากเลยค่ะ 



หลังจาก เราเช็คอินแล้ว เราก็เข้าห้องพักค่ะ ปุ๊กชอบสไตล์ของโรงแรมมากเลย คือ ให้ความรู้สึกย้อนยุค ดูน่าหลงไหลค่ะ 



ห้องพักกว้างมากๆๆๆๆๆ หลังจากที่ต้องพักอยู่ในห้องพักที่เล็กสุดๆ ที่ซัปโปโป 555 พอมาที่นี่แล้ว รู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์นะคะ  



เอาล่ะค่ะ เวลาอาหารเย็นแล้ว ตอนแรก กะจะไปกินซูชิจานหมุนใกล้ๆ โรงแรม แต่ พรุ่งนี้ มีจองโต๊ะ ที่ร้านซูชิไว้แล้ว เราเลยเปลี่ยนใจค่ะจาก ซูชิ เลยกลายเป็น เจงกิสข่านแทน เราแวะที่ร้าน Otaru Jingisukan  ( 小樽ジンギスカン倶楽部 北とうがらし 出抜小路店 ).



แต่ปุ๊กว่า เราพ่ายแพ้ ต่อกลิ่นหอมๆ ของเนื้อย่างมากกว่า 555 
เราเปิดประตูร้านเล็กๆ นี้เข้าไป 

 White Brandy for me ^^

โดยสำหรับร้านนี้ เราต้องสั่งเนื้อ 1 จานต่อคนนะคะ เจ้าของร้านถามว่า เราโอเคไหมกับการกินเนื้อแกะ ปุ๊กก็เลยต้องถามคุณพี่สาว เพราะตอนก่อนที่จะไปญี่ปุ่น รอบนี้ เคยถามว่า จะกินเนื้อแกะไหม ก็เอาแต่ส่ายหน้า แต่พอเข้าร้านนี้ เธอบอกเธอจะลอง ก็โอเคค่ะ (ส่วนปุ๊กไม่ต้องห่วงค่ะ กินทุกอย่างที่วางตรงหน้าอยู่แล้ว อิอิ) 


 Lamb steak.

เราเยสั่งเนื้อมาทั้ง 2 แบบ คือ Lamb Jingisukan และ Lamb steak (ร้านนี้มีแต่เนื้อแกะนะคะ)


 Lamb Jingisukan

และผัก คือ ต้นหอม, ถั่วงอก แล้วก็หัวหอมค่ะ 




ร้านนี้เล็กมากนะคะ นั่งได้ ประมาณ 10 คนเอง, ร้านนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอร่อยของเนื้อย่างเลยล่ะค่ะ


Another glass of beer for me

เนื้อแกะอร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ และคุณพี่สาวที่ไม่ทานเนื้อแกะ กลายเป็นคนที่สั่งเนื้อเพิ่มอีก 2 จาน 5555 ตอนนี้ เธอเลยทานเนื้อแกะได้ แบบสบายๆ เลยล่ะค่ะ 
ตอนแรกสั่งเหล้า  white brandy มา แต่สุดท้าย ก็ต้องเป็น เบียร์เท่านั้นเลยค่ะ กินกับเนื้อย่างเข้ากันๆ  



หลังจากอาหารค่ำ ที่อื่มมาก เราก็เลยเดินเล่นกันเล็กน้อย แต่มันมืด แล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรให้ดูนะคะ ยกเว้นคลองสวยค่ะ 



เราก็เลยกลับไป โรงแรม เพื่อไปแช่ออนเซนกัน หลังจากนั้น เราก็เข้านอนอย่างมีความสุขกันค่ะ 

วิวจากห้องพัก
อรุณสวัสดิ์ค่ะ 
สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับการมีที่พักใกล้ที่เที่ยวคือ เราไม่ต้องตื่นเช้านะคะ 555  


โปสการ์ด และสีไม้
ระหว่างรอคุณหลานแต่งตัว ปุ๊กก็นั่งระบายสีโปสการ์ดไปค่ะ (ทางโรงแรมจัดทั้งโปสการ์ด และสีไว้ให้ น่ารักมาก)



แล้วเราก็ไปทานอาหารกันที่ชั้น 2 ของโรงแรมค่ะ โดยเป็นบุฟเฟต์ ที่มีอาหารทั้งสไตล์ญี่ปุ่น และแบบตะวันตกค่ะ  


ขนมปังอบใหม่ๆ


 ผักสดๆ สำหรับสลัดของเรา 


ปุ๊กก็ตะกละเหมือนเดิมนะคะ ตักมาเยอะเลยก็นะ อยากลองไปหมดเลย  และพอทานเสร็จ ก็คิดว่า ถูกต้องแล้วที่เอามา เพราะอร่อยทุกอย่างค่า



วิวจากที่ระเบียงของห้องอาหารก็สวยนะคะ ปุ๊กเอากาแฟออกไปนั่งดื่มข้างนอก ชมวิวสักพัก (แต่ก็ได้ไม่นานนะคะ เพราะอากาศเย็นอะ ^^").


 วิวจากระเบียง

เราพักโรงแรมนี้กันค่ะ 


วันนี้ เรามีแผน จะไปทำของที่ระลึกจากแก้วที่ร้านนี้กันค่ะ  小樽 硝子の灯・彩や.



โดยที่โอตารุ โด่งดังเรื่องแก้วนะคะ เดินไปทางไหนก็เจอร้านขายแก้วเต็มเลย  



แต่เราไม่ได้ทำแก้วชิ้นใหญ่นะคะ เพราะไม่อยากใช้เวลามากไป (และเรายังไม่เคยลองทำด้วย) 



เราเลยเลือกทำ ลูกปัด ที่เรียกว่า  Tonbotama,ที่ทำได้ไม่ยากค่ะ 


เพียงแค่ละลายแก้ว แล้วตกแต่งเล็กน้อย ก็ได้แล้ว  



สนุกดีค่ะ ถ้าใครมีโอกาสลองแวะเข้าไปทำดู ใช้เวลาไม่นานด้วย คุณหลายสนุกจนขอทำเพิ่มอีกตัวเลย  


หลังจาก สนุกกับการทำของที่ระลึกแล้ว เราก็ไปเดินเล่นกันค่ะ 

มีของขายมากมาย ปุ๊กพยายามเก็บมือไว้ในกระเป๋านะคะ ไม่อยากซื้อของเยอะ 


จนกระทั่งมาถึงร้านนี้ค่ะ "Fine Craft"  ถ้าใครชอบของซักกะ จะหลงร้านนี้แน่นอนเลย 


มีเครื่องครัวทำมือที่ทำจากไม้สวยๆ เยอะเลยค่ะ  


ปุ๊กซื้อของเยอะมาก และอยู่นานมาก จนคุณหลาน บอกว่า ห้ามเข้าร้านนี้อีก 555 เพราะเธอต้องรอปุ๊กนานมาก 



แต่ถึงใครจะไม่ชอบซื้อของ แค่เดินชมเมือง ดูบรรยากาศแบบเก่าๆ ก็สนุกนะค




หลังจากเดินกันมานาน เราก็หิวแล้วล่ะค่ะ เราแวะทานอาหารและขนมกันที่
LeTao Pathos (ルタオ パトス )ร้านLeTao ที่มีคาเฟ่อยู่บนชั้น 2 นะคะ 


 Shortcake 

แนะนำมากๆ สำหรับใครที่ชอบทานอาหาร และขนมดีๆ ที่นั่งด้านบนกว้างขว้าง นั่งได้ แบบสบายๆ 


 Famous LeTao Double Fromage cake

โดยยังสามารถสั่งอาหาร และขนม เป็นเซ็ตได้ด้วยนะคะ ^^.




Garlic rice Steak 



Egg Benedict 


สิ่งที่อร่อยที่สุดที่เราควรทานที่นี่ค่ะ  "LeTao Double Fromage" ^^.
รู้นะคะ ว่า หลายคนจะบอกว่า มีให้ซื้อตั้งหลายที่ ทำไมต้องที่นี่ แต่ขอบอกเลยว่า หลังจากลองทานมาหลายที่ พบว่า ความอร่อยของมัน อยู่ที่ความสดใหม่ด้วยค่ะ เพราะพอทานที่นี่แล้ว มันอร่อยจริงๆ 



ขนมอีกอย่างที่ไม่ควรพลาด คือ "Rue Ironai Fromage", คุกกี้ลิ้นแมวบางๆ ที่มีใส้เป็นชีสเค็มๆ อร่อยมากๆ เช่นกันค่ะ 



หลายๆคนคงเริ่มคิดแล้วใช่ไหม ว่าวันนี้ ยังไม่เห็นปุ๊กถือแก้วกาแฟเลย  



ใช่ค่า ตอนนี้ หิวกาแฟ (ดีๆ อร่อยๆ) มากแล้ว เราเลยวิ่งไป ที่ร้านใกล้ๆ กับLeTao คือร้าน  Kahisakan ( 可否茶館 小樽ファクトリー) มาดื่มกาแฟ ให้มีความสุขกันสักหน่อย



หลังจากได้กาแฟ เราก็เดินเล่นกันอีกเล็กน้อย เดี๋ยวเราจะไปกินซูชิกันเย็นนี้นะคะ



กลับมาพักกันเล็กน้อย ระหว่างรอ ปุ๊กก็นั่งระบายสีต่อ แต่ทำไมมันยังไม่เสร็จซะทีน้า สงสัยจะต้องส่งแบบระบายสีไม่เสร็จแน่เลย 555 


 ฝนตกหนักมากค่ะ ตอนนี้ เราเลยเรียกแท็กซี่เพื่อไปที่ร้าน   伊勢鮨  (Ise zushi) กัน



มีซูชิให้เลือกเยอะนะคะ แต่พนักงานแนะนำให้เราสั่งชุด  "Jun set ", ซึ่งมีซูชิ 16 ชิ้น โดยเป็นเซ็ตที่จัดตามฤดูกาลค่ะ 


Umeshu 
 เอาล่ะค่ะ สั่งอาหารแล้ว ก็พักได้นะ อิอิ ปุ๊กว่า สิ่งที่ดีที่สุดของการไปเที่ยวคือ เราสามารถดื่ม (เหล้า) ได้ โดยไม่ต้องกังวล ไม่ต้องคิดว่า จะกลับบ้านยังไง เราจะจอดไว้ที่ไหน สบายดีจังค่ะ 


 First dish of Jun set 
เช่นเดิมนะคะ สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับปุ๊กคือ จำชื่อของปลาแต่ล่ะชนิด (จริงๆ ถ่ายเป็นวีดีโอมาค่ะ แต่ จะเอามาลงก็ยังไงๆ อยู่) อย่างว่า เวลาที่เรากินอย่างมีความสุข ก็ไม่ค่อยจะได้สนใจรายละเอียดนะ 


 Soup

Cream cheese in Miso

Norimaki

 Second dish of Jun set 

 Sashimi set 

 Third dish of Jun set 

 Shishamo

และขอแนะนำให้รู้จักปลาที่กลายเป็น ปลาในดวงใจนะ ก็คือ ชิชาโมะ 
ปุ๊กรู้จักจากรายการที่เชย์ยู ที่ปุ๊กชอบจัดนะคะ เขาพาเที่ยว ฮอกไกโด และเขาบอกว่า อร่อยมาก โดยปลาชนิดนี้ จะมีให้ทานเฉพาะในช่วงใบได้ร่วงเท่านั้นด้วย ดังนั้น ปลาชนิดนี้ เลยเป็น หนึ่งในจุดมุ่งหมายด้านอาหารของปุ๊กในรอบนี้เลย
มันๆ อร่อยมาก และเนื้อดีมาก ดังนั้นแนะนำมากนะคะ ว่าถ้าใครมาฮอกไกโดช่วงใบไม้ร่วงต้องไม่พลาดค่ะ 

อิ่มอร่อยกันแล้ว ก็กลับไปแช่ออนเซนกันดีกว่าค่ะ คืนนี้ เราจะได้หลับฝันดีกันอีกวัน 




วันนี้ เป็นวันสุดท้ายที่โอตารุแล้วนะคะ เราก็ตื่น (สาย) มาทานอาหารเช้าที่โรงแรมเช่นเดิมค่ะ 



เวลาที่อยากจะมาพักผ่อนจริงๆ การทานอาหารเช้าที่โรงแรม เป็นเรื่องดีนะคะ เพราะไม่ต้องรีบร้อนเลย แล้วก็ตื่นได้สายๆ สบายๆ  555



ยิ่งอาหารที่โรงแรมนี้อร่อย เลยดีเข้าไปใหญ่เลย ยิ่งขนมปังเมเปิ้ลถั่วนี่ อร่อยจนเธอรอ จนอบเสร็จ แล้วทานที 2 ชิ้นเลย อิอิ



พนักงานที่นี่ดีมากค่ะ วันที่ 2 ของเรา ตอนไปทานอาหารเช้า ที่นั่งที่ติดระเบียงไม่ว่าง คุณป้า ไม่ยอมให้เราออกจากห้องอาหาร จนกว่า เราจะย้ายที่นั่ง 555 ปุ๊กก็เลยต้องบอกว่า เมื่อวานเราได้นั่นดูวิวไปแล้ว เธอถึงยอมปล่อยเราออกมา 



ถ้าใครมาโอตารุแล้ว อยากพักผ่อนในบรรยากาศแบบเรโทรจริงๆ ก็แนะนำที่นี่มากๆ นะคะ แล้วก็หวังว่า จะได้ความประทับใจแบบเดียวกันค่ะ 


วันนี้ไม่มีอะไรมากนะคะ เราจะไปแปลงร่างเป็น สาวญี่ปุ่นกันค่ะ 
โดยเราไปเช่าชุดกันที่ร้าน   Kimono Tsujichu (着物辻忠)



มีกิโมโนให้เลือกเยอะนะคะ การที่เราจะได้ แต่งตัวแบบนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำได้ง่ายๆนะ เพราะถ้าไม่มีเวลาก็ยากค่ะ เป็นความรู้สึกตื่นเต้นนะ


 หลังจากกลายเป็นสาวญี่ปุ่นกันแล้ว เราก็เดินไปล่องเรือที่  Otaru Canal Cruise (小樽運河クルーズ) กันค่ะ




โดยจะใช้เวลา 40 นาที ในการชมวิว พร้อมฟังไกด์บรรยายถึงประวัติ ของคลองโอตารุ 


วันนี้ อากาศดีนะคะ เหมาะกับการล่องเรือมากๆ  


ปุ๊กถ่ายรูปไปแยะมากนะคะ แต่ พอมาเช็คดู รูปไม่ค่อยสวยเท่าที่คิด 555 เพราะเรือก็แล่นไปเรื่อยๆ จะบอกให้เขาหยุดให้เราถ่ายรูปก็ไม่ได้เนาะ  



แนะนำนะคะ สำหรับคนที่ชอบฟังเรื่องประวัติต่างๆ 



แล้วก็ถึงเวลา ไปคืนชุด และตื่นจากฝัน (ว่า เป็นสาวญี่ปุ่นยุคเก่า) พวกเราสนุกมากๆ กับการเดินเล่น และถ่ายรูปกันมากค่ะ  ^^.




ก่อนจะออกจากโอตารุ ยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกอย่าง คือการไปกินอาหารที่ตลาด ซังคะคุค่ะ เป็นตลาดเล็กๆ ที่อยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟ Otaru



 โดยเรานั่งแท็กซี่ไปนะคะ (เดินไปไกลเกินค่ะ) 



ปุ๊กกับคุณหลานตื่นเต้นมาก เพราะเรา 2 คน เคยนั่งดูรายการที่เซย์ยูพาเที่ยวที่นี่ด้วยกัน เลยอยากมามากๆ 



เป็นตลาดที่เล็กมากนะคะ แต่ก็มีอาหารทะเลสดๆ เยอะค่ะ 



แต่เราไม่ได้จะมาซื้ออาหารทะเลกันค่ะ แต่เราตั้งใจจะมากินกันที่  Kita no Donburiya Takinami Shokudo (北のどんぶり屋 滝波食堂 ) ร้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในตลาด



เวลานี้ ยังไม่เย็นดังนั้น ขอเป็นชาก็แล้วกัน  


 Amaebi-sweet shrimp 500円

 Oyster 350円

 Salmon 500円

 わがまま丼 1800円

 元祖 わがまま丼  2000円


Samma Sashimi


 And my favourite Shishamo

ชิชาโมะที่ปุ๊กโปรดปรานนี่ จะต้องบอกไว้ก่อนว่า มี 2 อย่างนะคะ คือ ตัวเมียกับตัวผู้ โดยปุ๊กชอบเนื้อแบบกรอบๆ ของตัวผู้มากกว่า เพราะตัวเมียจะนิ่มๆ จากไข่ในท้อง แต่หากใครมีโอกาส ก็ลองทั้ง คู่ก็ได้ค่ะ อาจจะชอบต่างกัน ^^.

ถ้าถามความเห็นเกี่ยวกับร้านที่ตลาด ก็ตอบตรงว่า เพราะเมื่อคืน เราไปทานร้านที่ติดอันดับมา คุณภาพของเนื้อปลา มันต่างกันเยอะค่ะ แต่กินเยอะ กินสนุก ที่นี่ก็โอเคเลย เพราะของสดดี



ถึงเวลาต้องกลับไปโรงแรม เพื่อเอาของแล้วนะคะ เราต้องจาก โอตารุกันแล้ว 
เราขึ้นรถไฟจากที่นี่ เพื่อไป ที่ New Chitose Airport ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมงค่ะ
เราเลือกที่จะพักที่  Air Terminal Hotel, เพราะเที่ยวบินของเราออกเช้านะคะ 

 ก่อนจะไปโรงแรม เจอร้านคิตะ คิกเช่น ก็เลยซื้อขนมไปทานกันค่ะ 
เจออันนี้ เป็น Dorayaki,ที่อร่อยมากๆๆๆๆ 



ใส้หนาประมาณ 3 เซนเลย และเป็นถั่วแดงที่มาจาก โทกาชิด้วย อร่อยมากๆ ค่ะ ถ้าใครเจอก็ลองซื้อทานนะคะ แนะนำๆ 



เพราะเราพักที่นี่ เช้านี้เราเลยไม่ต้องรีบนะคะ เดินจากโรงแรมมา เช็คอิน อีกไม่ถึง 2 ชั่วโมงเราจะจากฮอกไกโดแล้วล่ะค่ะ 
มีขนมให้ซื้อเป็นของฝากมากมายนะคะ โดยเฉพาะ LeTao ที่เราสามารถซื้อแล้วเขาจะแพ็คให้อย่างดี เอาขึ้นเครื่องได้สบายๆ ดังนั้น หากอยากซื้อ เข้ามาซื้อในนี้สะดวกดีค่ะ 


ปุ๊กซื้อปู King Crab, ไข่ปลา แล้วก็พวกชีส, นม จากที่นี่ด้วย เช่นกัน เขาแพ็คเรียบร้อยดีค่ะ เหมาะกับการนำไปเป็นของฝากให้คนที่บ้านจริงๆ

จบการเดินทางในรอบนี้แล้ว ครั้งนี้ ตั้งใจจะเขียนจนจบ 555 เพราะทุกครั้งมักจะมีสิ่งที่อยากทำมาขัดแล้วก็ไม่ได้เขียนต่อ สนุกกันไหมคะ ถ้าชอบก็ฝากคอมเม้นท์กันไว้บ้างนะ

ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านกันมานะคะ ไว้ครั้งหน้าไปเที่ยวไหนอีก รออ่านกันค่ะ



No comments:

Post a Comment

Printfriendly