Sunday, November 12, 2017

ไปเที่ยวกับเดลี่: ฮอกไกโด วันที่ 4 วิวสวยๆ ในสายฝน


วันที่ 4 ของการมาเที่ยวรอบนี้แล้วค่ะ แต่เรายังมีอะไรที่ต้องทำ (ไป และกินอีกเพียบเลยนะ)
หากอยากอ่านวันที่ผ่านๆมาคลิกที่นี่นะคะ:
ไปเที่ยวกับเดลี่, อาหารเช้าตอนสายๆ กับโดราเอมอน และโบกี้รถไฟส่วนตัวของพวกเรา
ไปเที่ยวกับเดลี่: ฮอกไกโด วันที่ 2 กิน และไม่หยุดกิน ที่โอบิฮิโระ



 สำหรับเช้านี้ เราตัดสินใจที่จะทานของที่เราซื้อกักตุนกันมา ตั้งแต่วันแรกๆ 555 เพราะว่าถ้าไม่ทานให้หมด สงสัยต้องหอบขึ้นรถไฟไปจนถึงซัปโปโรแน่นอนเลยนะ (เราจะคืนรถที่นี่ ก่อนที่จะขึ้นรถไฟไปซัปโปโรค่ะ) 


อาหารเช้าของปุ๊กก็เลยเป็น ชีสเค้ก Fromage Double ของ Le Tao, นมกาแฟ ที่ซื้อเพราะกล่องน่ารัก อิอิ กับขนม และขนมปังอีกเยอะมาก ที่ซื้อมาจากหลายๆ ร้านค่ะ 



ก่อนที่จะออกจากเมือง ตอนติดไฟแดง เห็นกลุ่มครูอนุบาล กำลังพาเด็กไปโรงเรียน เห็นวิธีการนำเอาเด็กใส่รถเข็นแบบนี้ แล้วน่ารักดี 555 เลยอดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายเก็บไว้นะ 

เอาล่ะค่ะ เรากำลังจะเดินทางไปบิเอะกันแล้ว ( Biei -美瑛町), โดยเราจะต้องขับรถไป 50 นาที เพื่อไปถึง บ่อน้ำสีฟ้า (Shirogane Blue Pond -白金青い池)
Shirogane, 美瑛町 Biei, Kamikawa District, Hokkaida 071-0235
biei-hokkaido.jp +81 166-94-3355



เพราะสองข้างทางมีวิวสวยๆ ให้ดูตลอด เลยเป็นช่วงเวลาเดินทางที่ไม่น่าเบื่อนะคะ แล้วในที่สุดเราก็ถึงจุดหมาย, บ่อน้ำสีฟ้าค่ะ ต้องบอกไว้เลยว่า ที่นี่ไม่มีอะไรเลยนะคะ ไม่มีศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว ห้องน้ำ หรือ ร้านขายของ (ต้องแวะ ก่อนมาถึงที่นี่ ห่างออกไปประมาณ 5 นาที) มีแค่ บ่อน้ำ และที่ให้จอดรถค่ะ



บ่อน้ำสีฟ้า, สีสวยมากนะคะ ฟ้าจับใจเลยทีเดียว (ปล. เป็นบ่อที่เกิดขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์นะคะ สีของน้ำเกิดจากแร่ธาตุตามธรรมชาติ โดยเกิดขึ้นจากการกั้นเขื่อนเพื่อป้องกัน Bieiไม่ให้โคลนภูเขาไฟ Tokachi ).



ถ้าไม่ใช่คนที่ชอบชมธรรมชาติแบบเงียบๆ, หรือชอบถ่ายรูปไม่หยุด, ไม่แนะนำเท่าไหร่ค่ะ เพราะไม่ได้มีอะไรให้ทำ นอกจากการเดินรอบๆบ่อ สูดลมหายใจลึกๆ และกดชัตเตอร์กล้องไปเรื่อยๆค่ะ 555


ปุ๊กอยู่ที่นี่นานมากค่ะ เพราะสีฟ้าของบ่อทำให้สนุกกับการถ่าบรูปมาก แต่สุดท้าย ก็ต้องวิ่งกลับรถ เพราะฝนตกหนัก 

พอโดนฝนไล่ เราเลยไปที่หมายต่อไปค่ะ ซึ่งก็คือ น้ำตก  Shirahige Waterfall (しらひげの滝) ที่อยู่ไม่ไกลนัก


จอดรถที่ถนน แล้วเดินเข้าไปอีกประมาณ 1 นาที เพื่อไปที่สะพาน Blue River Bridge (ブルーリッジリバー) ที่เราสามารถชมน้ำตกได้ จากที่นี่ค่ะ 


เนื่องจาก ฝนตก เลยไม่ค่อยมีคนเท่าไหร่นะคะ (แค่ 2-3 กลุ่มเล็กๆ) เลยได้บรรยากาศที่สวย แบบเงียบสงบมากค่ะ  



มองไปทางไหน ก็สีเยอะไปหมดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบนภูเขา หรือมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ถึงตอนนี้ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่า ธรรมชาติ เขาสร้างสิ่งสวยงามมากมายจริงๆ 



หลังจากถ่ายรูปจนหนำใจ ก็ถึงเวลาหาอาหารกลางวันกินแล้วค่ะ 
เราขับรถเข้าไปที่ บิเอะ เพื่อจะไปร้าน 
Gauche (Gosh) roasted coffee shop (ゴーシュ(Gosh)自家焙煎珈琲店)
+81 166-95-2052
gosh-coffee.com

3 Chome-4-21 Bibaushikita, Biei-chō, Kamikawa-gun, Hokkaidō 071-0461


หลังจากงงทางอยู่สักพัก (ร้านอยู่ในแทบบ้านพักอาศัยอะค่ะ เลยหายากนิด) เราก็มาถึงที่หมาย 




พวกเราเดินเข้าไปด้วยความดีใจ (และตั้งใจ) มาสเตอร์เดินมาต้อนรับเราอย่างดีนะคะ แล้วก็บอกข่าวร้ายคือ เราไม่สามารถทานอาหารที่นี่ได้  !!!!!!!!
รอบนี้เป็นความผิดของปุ๊กเต็มๆค่ะ เพราะตอนเลือกร้าน ไม่ได้ดูรายละเอียดให้ดี เลยไม่เห็นว่า เขาไม่อนุญาติให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าร้าน -*-.
วันหลังต้องระวังเรื่องนี้ให้มากขึ้นค่ะ 



เพราะอากาศเย็น และฝนยังคงไม่หยุดนะคะ ปุ๊กก็เลยสั่งกาแฟร้อน เพื่อจะทำให้ร่างกายอุ่น และสั่ง นมร้อนให้หลาน มาสเตอร์ก็ตอบมาว่า ร้านเราไม่มีนมร้อนขาย (อารมณ์นั้น อยากร้องไห้ค่ะ เพราะสงสารหลานมาก เธอหนาว แล้วก็หิวด้วย) 
แต่เพียงแค่ชั่วครู่ เราก็ได้รู้สึกถึงความอบอุ่น ที่เราได้รับมากมายจากผู้คนที่เราเจอในทริปนี้ค่ะ เพราะมาสเตอร์หันไปหยิบแก้วแล้ว พูดกับปุ๊กว่า เดี๋ยวจะทำนมอุ่นให้หลาน 
พอเราจ่ายค่ากาแฟ (เป็นกาแฟที่อร่อยมากนะคะ และเราซื้อขนมปังที่ดูน่าทานมา ซึ่งพอมาทานทีหลังเสียดายว่าเราซื้อมาน้อยไป 555 เพราะมันอร่อยมากๆ) เราถึงได้รู้ว่า มาสเตอร์ให้นมร้อน เราฟรีๆ เลย ขอบคุณมากนะคะ


เราเลยไปร้านที่เราใส่ไว้เป็นแผน 2 ค่ะ คือ ร้าน  Small bakery Likka Lokka  (リッカ ロッカ).
ซึ่งไม่ได้ไกลจากร้านแรกนัก แต่เสียเวลาในการหาร้านอีกหน่อย ตามเคย เพราะร้านอยู่ลึกเข้าไป ต้องจอดรถด้านนอก เราขับรถผ่าน 2-3 รอบถึงจะเห็นป้ายเล็กๆ ที่ชี้เข้าร้าน 


เดินเข้าไปประมาณ 1 นาที ก็ถึงร้านค่ะ 


ที่ทำให้โล่งหน่อยคือ เห็นป้าน ร้านเปิด (ทริปนี้ กลัวที่สุดคือไปถึงแล้วร้านปิดนะ อิอิ)  



ร้านนี้มีเซ็ตอาหารกลางวัน, เซ็ตของหวาน, ขนมปัง และเครื่องดื่มให้เลือกทานค่ะ แต่ตอนที่เราไปถึงเซ็ตอาหารกลางวันหมดแล้ว (เขาทำจำนวนไม่มากด้วยค่ะ) เราเลยเลือกได้แค่เซ็ตของหวาน กับขนมปัง 


หลังจากสั่งอาหาร และจ่ายเงินแล้ว เราก็มานั่งรอที่โต๊ะค่ะ 


ร้านบรรยากาศดี วิวสวย, ตกแต่งน่ารัก สิ่งที่ทำให้ปุ๊กชอบที่สุด เป็นแสงของร้านค่ะ แสงสวยมากจนหยุดถ่ายรูปไม่ได้เลย 



ร้านเป็นสไตล์  self-service เลยมีมุมเล็กๆ ให้เรา อุ่นขนมปัง และกดน้ำดื่มได้เองค่ะ 



แล้วขนมปังของเราก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะ  


 เราก็นำขนมปังไปอุ่นที่เตาอบ 


 ระหว่างรอ เซ็ตขนมหวาน ปุ๊กเลยเดินออกทางประตูหลังร้าน ไปลานด้านหลัง มันกว้าง แล้วก็สวยมากเลยค่ะ นี่ถ้ามาตอนช่วงอากาศดีๆ ได้มานั่งทานอาหารกลางแจ้งบริเวณนี้จะดีแค่ไหนหนอ เริ่มแอบจินตนาการค่ะ 


ในที่สุด ชุด  Bagel French toast (690 yen) ก็มาถึงค่ะ เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศครีม และแยม  ^^. 


และปุ๊กก็ได้กาแฟร้อนอีกแล้ว (ไปญี่ปุ่นรอบนี้ ดื่มกาแฟ เป็นน้ำเลย 555 แต่ก็นะ มันเป็นแหล่งพลังชีวิตของปุ๊กค่ะ)  


ขนมปังอุ่นๆ ที่มีชีสเยิ้มนิดๆ อร่อยมากๆนะคะ


เฟรนโทสอุ่นๆ ที่ทานพร้อมกับไอศครีม และแยม อร่อยแบบดีต่อใจมากค่ะ  


เราอยู่ที่นี่เป็นชั่วโมงเลย เพราะบรรยาศดีมากๆ กลิ่นขนมปัง, กลิ่นกาแฟ และแสงสวยๆ ไม่อยากออกจากร้านเลย 


แต่สุดท้ายก็ต้องทำใจ เดินออกจากร้านค่ะ โดยหวังว่า เราจะมีโอกาสได้มาแวะเยี่ยมที่นี่อีกสักครั้ง


ปล. ถ้าใครเคยอ่าน (หรือดูหนัง) เรื่อง Bread of Happiness (幸せのパン) น่าจะหลงรักร้านนี้ แบบเดียวกับปุ๊กค่ะ เพราะเหมือนร้านนี้หลุดออกมาจากหนังสือเลย ^^.


จากร้าน Likka Lokka ขับรถไป 6 นาที เราก็ไปถึง สวน Shikisai no Oka  (四季彩の丘),ที่เราจะมาดูดอกไม้สวยๆ กันค่ะ  


ตอนที่ก้าวลงจากรถ เจอสายรุ้งพอดี เลยรีบถ่ายรูปไว้อย่างรวดเร็วค่ะ  ^^.


เราไปถึงค่อยข้างเย็นนะคะ ก็เลยไม่ได้ขึ้นรถ ชมสวน แต่หลังจากกินกันมาขนาดนี้ จะเดินสักหน่อย ก็คงจะดีนะคะ  


 ฟ้าเปลี่ยนสีตลอดเวลาเลย ทำให้ใถ่ายรูปสนุกมากค่ะ 


เพราะเขาจะปลูกดอกไม้เยอะๆ เพื่อให้เป็นวิวที่มองแล้วตื่นตามากนะคะ เวลามองไกลๆ แต่อย่าลืมที่จะเดินเข้าไปใกล้ เพื่อชื่นชมเขานะ เพราะแต่ล่ะดอก, แต่ล่ะต้น เขามีความสวยของเขาเองค่ะ^^.



ต่อไปเป็นการลงรูปแบบรัวๆ ค่ะ อิอิ

เพราะที่นี่จะปลูกดอกไม้ตามฤดูกาล ดังนันวิวที่เห็นก็จะต่างไปเรื่อยๆ ตามช่วงเวลา


 จากเนินมองไปได้ไกลมากเลยค่ะ


หลังจากถ่ายรูไปแยะ และพระอาทิตย์กำลังจะจากไป ก็ถึงเวลาที่เราจะกลับไปที่ Asahikawa แล้ว
เราตัดสินใจว่า เย็นนี้ เราคงจะหาอะไรทานแบบง่ายๆ ที่ฟูดคอร์ทใน Aeon mall แทนที่จะเข้าไปทานที่ร้านอาหารค่ะ



หลังจากเอารถไปเก็บ และพักสักครู่ เราก็เดินข้ามถนน ไปที่  Aeon mall และสิ่งที่เราเห็นเป็นอย่างแรกก็คือ ขนม, ขนม และขนมค่ะ 555 
ร้านที่อยากแวะมากก็คือ Ryugetsu (柳月) เพราะเป็นอีกร้านที่ตั้งใจจะไป ตอนที่อยู่โอบิฮิโระ แต่เวลาไม่พอ  


 ก็เลยเลือกซื้อขนม เพื่อที่จะเอากลับไปทานที่โรงแรม 


 ขนมก็อร่อยดีนะคะ แต่ถ้าให้เลือก ปุ๊กชอบ Rokkaitei มากกว่า


แต่อาจจะเป็นเพราะปุ๊กไม่ได้ทานที่ร้าน และทานไปแค่ 2 อย่างเอง ถ้าใครมีโอกาสทาน ลองมาบอกหน่อยนะคะ ว่าชอบร้านไหนมากกว่า 




หลังจากผ่านด่านร้านขนม เราก็เดินมาถึงฟูดคอร์ทค่ะ มีของกินให้เลือกเยอะนะคะ แต่ปุ๊กตั้งใจไว้แล้วค่ะ ว่าจะทานอะไร


เพราะช่วงที่ผ่านทานแป้ง, และข้าวเยอะมาก วันนี้ สิ่งที่อยากกินที่สุด คือ เนื้อค่ะ ปุ๊กก็เลยสั่งสเต็กจากร้าน  Pepper lunch  (ペッパーランチ) 


 ส่วนหลานสาวปุ๊กยังคงต้องการข้าวต่อไป ก็เลยสั่งเป็นข้าวหน้าหมู กับไข่จากร้าน Pomunoki (ポムの樹).



คุณพี่สาวตัดสินใจไม่ได้ ก็เลยสั่งเป็น 2 อย่างคือ ข้าวห่อไข่ กับเสต็ก 



พวกเราก็เลยลงเอยแบบเดิมคือ สั่งอาหาร 4 จาน สำหรับคน 3 คนเช่นเดิมค่ะ 555 

หลังจากกินเสร็จ เราก็เดินดูของนิดหน่อยค่ะ แต่ไม่ได้ตั้งใจจะซื้ออะไรมากนัก เพราะพรุ่งนี้ เราต้องเดินทางโดยรถไฟแล้ว 


ชีสแบบดื่มได้ - Drinking cheeese
แต่ก่อนที่จะออกจากห้าง ก็เจอร้านนี้  Kita no Kitchen (北のキッチン), แนะนำมากเลยนะคะ ถ้าใครอยากลองอาหาร และขนม ของฮอกไกโด เพราะมีของท้องถิ่นขายเพียบ ที่ลองซื้อไปทานก็อร่อยดีเกือบทุกอย่างเลย 
เอาล่ะค่ะ กลับโรงแรมกันดีกว่า พรุ่งนี้เรายังต้องไปสวนสัตว์ และไปเก็บผลไม้กันอีก ต้องเซฟพลังงานไว้ค่ะ ^^.
ไปเที่ยวกับเดลี่: ฮอกไกโด วันที่ 5 ไปเที่ยวสวนสัตว์และเก็บผลไม้กัน


No comments:

Post a Comment

Printfriendly